|
D-TECH i SERIES ให้เสียงที่ดีเยี่ยม
และให้กำลังขับสูงสุดที่คุณสามารถมองหาได้ในตลาด ยืดหยุ่นในการใช้งาน
น้ำหนักเบาและผลิตจากวัตถุดิบชั้นเยี่ยม
ใหม่
ควบคุมกรวยลำโพงได้ดีกว่า
ตัด
intermodulation ที่ซ่อนอยู่
ให้เฮดรูมที่สูงกว่า
ปรับแต่งลิมิตเตอร์ได้ดั่งใจ
ยืดหยุ่นในการส่งกำลัง
ใช้งานได้หลากหลาย
รับประกัน 3 ปีเต็ม |
D-TECH 2400i
D-TECH 3600i
D-TECH 5000i
D-TECH 8000i
D-TECH i SERIES
เป็นเพาเวอร์แอมป์
PA ระดับไฮเอนต์
ผลิตด้วยเทคโนโลยีทีทันสมัยที่สุดและวัตถุที่ดีที่สุดและเป็นเพาเวอร์แอมป์ที่ให้กำลังขับในระดับที่สูงสุดของตลาด
ให้เสียงที่ใสสะอาด หยืดหยุ่นในการใช้งาน
D-TECH i SERIES
คือเทคโนโลยีเพาเวอร์แอมป์ระดับสูงสุดที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงจาก
TAFN Audio Systems
คุณสมบัติเด่นที่ถือได้ว่าเป็นสุดยอดของซีรีย์นี้ คือ
ความหยืดหยุ่นในการใช้งานระหว่าง 2 โอห์มและ 4 โอห์ม
โดยการใช้สวิตซ์เพียงตัวเดียวเท่านั้น
เพื่อให้ประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุดและให้เฮดรูมสูงสุดที่เป็นไปได้
ทั้ง 2 โอห์มและ 4 โอห์ม
ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เพาเวอร์แอมป์ทั่วไปไม่สามารถทำได้ด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยี
เพาเวอร์แอมป์
D-TECH i SERIES
ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพสูง
ที่มาพร้อมคอนเน็ตเตอร์และเบรคเกอร์ชั้นเยี่ยม
ในขนาดที่กระทัดรัด น้ำหนักเบา สูงเพียง 1.5 U
และยังมีคุณสมบัติพิเศษโดยเฉพาะของซีรีย์นี้
เช่น ลิมิตเตอร์ที่ปรับแต่งค่าได้ดังใจ
และระบบการจัดการที่ช่วยให้เสียงมีคุณภาพที่ดีมากขึ้น |
|
การควบคุมกรวยลำโพงเต็มประสิทธิภาพ
D-TECH i-Series
ที่ให้เสียงใสสะอาดพร้อมทั้งให้พลังเสียงเบสที่หนักแน่นลงลึก
เนื่องมาจากความสามารถที่แฝงอยู่ในตัวเพาเวอร์แอมป์ที่มีวงจรพิเศษที่สามารถควบคุมกรวยลำโพงให้สั่นและหยุดสั่นได้ดั่งใจ
จึงสามารถถ่ายทอดเสียงได้ใสสะอาดเหมือนจริงที่สุด
เพาเวอร์แอมป์ระบบอนาล็อกทั่วไปมี
Damping factor
ที่สูงเฉพาะในกรณีทำการผลักกรวยลำโพง (เข้าหรือออก)
แต่ยังมีอีกจุดเล็กๆที่ไม่ควรมองข้ามนั่นก็คือจังหวะที่กรวยลำโพงเคลื่อนที่กลับมาตามธรรมชาติ
ซึ่งจะอาศัยแรงจากการคืนตัวของแผ่นสไปเดอร์
(speaker spider)
ของตัวลำโพงที่ทำให้ลำโพงเคลื่อนที่กลับคืนสู่จุดศูนย์กลาง
คุณภาพของเสียงจึงขึ้นอยู่กับลักษณะของแผ่นสไปเดอร์ของตัวลำโพงด้วย
เพาเวอร์แอมป์
D-TECH i-Series
มีความพิเศษกว่าเพาเวอร์แอมป์ทั่วไปด้วยการสร้างสัญญาณควบคุมกรวยลำโพงให้เคลื่อนที่กลับตามสัญญาณไฟฟ้า
ทำให้กรวยลำโพงคืนตัวกลับไปที่จุดศูนย์กลางได้ดีตรงตามสัญญาณเสียง
ดังนั้นเพาเวอร์แอมป์ D-TECH i-Series
จึงสามารถควบคุมกรวยลำโพงได้ดั่งใจนึกไม่ว่าจะผลักเข้าหรือดันออก
จึงเป็นอีกเหตุผลสำคัญที่เสียงในแต่ละลูกคลื่นที่ออกมาจากเพาเวอร์
แอมป์
D-TECH i-Series ตรงตามจังหวะถูกต้องและแม่นยำ
เสียงเบสที่ออกมาจึงเหมือนจริงไม่เลื่อนหรือเกิดการซ้อนทับกับเสียงแหลมที่มีเฟสถูกต้อง
เสียงที่ออกมาจึงมีมิติสัมผัสได้ D-TECH i-Series
ยังสามารถบังคับกรวยลำโพงให้ตอบสนองตามสัญาณเสียงได้ดี ถึงแม้แผ่นสไปเดอร์(speaker
spider) ภายในดอกลำโพงนั้นเสื่อมสภาพ
การจ่ายพลังงานที่เหมาะสม
เพาเวอร์แอมป์ D-TECH i-Series
ใช้สวิตช์ในการปรับการจ่ายพลังงานที่เหมาะสมให้สามารถเลือกได้ 2 โหมด
ทั้งแบบ 4 โอห์ม(ลำโพงสองตัวต่อแชลแนล) หรือแบบ 2
โอห์มด(ลำโพงสี่ตัวต่อแชลแนล)
เพาเวอร์แอมป์จะจ่ายพลังงานสูงสุดที่เป็นไปได้ให้เหมาะสมกับโหมด
โดยเพาเวอร์แอมป์ยังคงให้พลังเสียงที่หนักแน่นอยู่
วงจรลิมิตเตอร์ของ D-TECH i
จะลดขนาดของสัญญาณให้พอดีกับช่วงไดนามิกส์ของเพาเวอร์แอมป์
ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งในส่วนของความเร็วในการตอบสนอง (attack
times) และช่วงเวลากลับสู่สภาวะปกติ (release times)
ของลิมิตเตอร์ได้ ถ้าผู้ใช้ปรับแต่งในส่วนของความเร็วในการตอบสนอง
(attack times) ให้นานขึ้นและช่วงเวลากลับสู่สภาวะปกติ (release
times) ให้เร็วขึ้น
ผลที่ได้จะทำให้การตอบสนองเสียงเบสหนักแน่นมากขึ้น
แต่ทว่าหากปรับแต่งลิมิตเตอร์ให้ความเร็วในการตอบสนอง (attack times)
ให้เร็วขึ้นและช่วงเวลากลับสู่สภาวะปกติ (release times) ให้ช้าลง
ผลที่ได้จะทำให้เสียงกลางแหลมมีความใสสะอาดมากขึ้น
การปรับแต่งลิมิตเตอร์ที่ละเอียดได้ดั่งใจผู้ใช้
ยังช่วยให้ผู้ใช้งานป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับการใช้งานลำโพงที่แตกต่างกันให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
|
D-TECH i-Series มี 2
โหมด ที่เหมาะสมสำหรับการจัดส่งพลังงาน
แต่เพาเวอร์แอมป์ทั่วไปจะจ่ายพลังงานที่เหมาะสมได้เพียงโหมดเดียวเท่านั้น
ในโหมด
LZ
เพาเวอร์แอมป์จะปรับแต่งการจ่ายพลังงานให้กับการต่อโหลดกระแสที่มากขึ้น(ได้ลำโพงต่อแชลแนลจำนวนมากขึ้น)
และในโหมด Normal
เพาเวอร์แอมป์จะปรับแต่งการจ่ายพลังงานให้ได้เฮดรูมที่สูงขึ้น(ได้กำลังต่อลำโพงมากขึ้น)
ถึงแม้ว่าโหมดเหล่านี้เป็นการปรับแต่งการจ่ายพลังงานให้โหลดได้อย่างเหมาะสม
แต่เพาเวอร์แอมป์ก็ยังคงใช้ได้กับการโหลดในแบบอื่นๆอีก
ซึ่งสวิตช์ที่ใช้ปรับโหมดนั้นเป็นเพียงคุณสมบัติที่เพิ่มประสิทธิภาพของเพาเวอร์แอมป์
และคุณสมบัตินี้ไม่มีอยู่ในเพาเวอร์แอมป์ทั่วไป
ในโหมด
LZ ยังสามารถใช้เพื่อจำกัดกำลังเอาต์พุตต่อลำโพงได้
เพื่อให้แน่ใจว่าพลังเสียงของลำโพงที่น้อยลงไปนั้น
จะไม่ส่งกำลังให้ลำโพงมากเกินไปจนเกิดความเสียหายขึ้น
และยังมีวงจรลิมิตเตอร์ที่ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งการทำงานของเพาเวอร์แอมป์ให้เหมาะสมกับชนิดของลำโพงที่ใช้ได้
Limiter control settings |
เปิดเผยความลับของเสียงใสสะอาด
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เพาเวอร์แอมป์ D-TECH ของ TAFN Audio System
ให้เสียงที่ใสสะอาด เพราะสามารถกำจัดสัญญาณรบกวน
ที่ซ้อนเร้นอยู่ในรูปของ intermodulation ได้
ฮาร์โมนิกที่นอกเหนือจากสัญญาณของเสียง
ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากการทำงานของเพาเวอร์แอมป์ที่เอาต์พุตสเตจและลำโพง
ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิด Intermodulation
เข้ามารบกวนในย่านเสียง ทำให้เสียงไม่สะอาดเหมือนจริง
intermodulation เกิดขึ้นได้จากการที่ damping factor
ในความถี่นอกย่านเสียงมีค่าต่ำ
ขณะที่เพาเวอร์แอมป์ทำการขยายสัญญาณที่ความถี่สูงๆ
ที่มากกว่าสัญญาณเสียงหรือมากกว่า 20 KHz
ขึ้นไปและ intermodulation
ที่เกิดขึ้นนี้ก็จะส่งผลย้อนกลับมายังลำโพง
ต้องขอบคุณการทำงานของ D-TECH ที่มีวงจรกรองความถี่เอาต์พุต(output
filter) ประสิทธิภาพสูง
ที่ช่วยตัดสัญญาณฮาร์โมนิก นอกย่านเสียงได้อย่างเฉียบคม ทำให้ไม่เกิด
Intermodulation
ที่จะย้อนกลับเข้ามาทำลายเสียงที่ใสสะอาดของเพาเวอร์แอมป์ได้
เพาเวอร์แอมป์ส่วนใหญ่ไม่สามารถแก้ปัญหาสัญญาณรบกวนที่เกิดจาก
intermodulation ได้ ทำให้เกิดค่าความผิดเพี้ยนของเสียงที่เกิดจาก
intermodulation ขึ้น
เนื่องจากเพาเวอร์แอมป์พวกนั้นไม่ได้ทดสอบในระบบที่เอื้อต่อการเกิด
Intermodulation
ใช้เพียงตัวต้านทานที่ไม่เกิดผลตอบสนองที่เหมือนลำโพงจริง
ดังนั้นจึงไม่พบปัญหาของ Intermodulation
ที่เกิดขึ้นจริงกับการใช้งานจริง
แต่ถ้านำเพาเวอร์แอมป์พวกนี้มาทดสอบกับลำโพงที่ใช้งานจริง
จะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน เสียงจากเพาเวอร์แอมป์ D-TECH
ให้เสียงที่ดีกว่าเพาเวอร์แอมป์ทั่วไป
เพราะเทคโนโลยีการตัดสัญญาณที่สามารถตัดที่ต้นตอของสาเหตุการเกิด
intermodulation ได้
คุณสมบัตินี้มีอยู่ในเพาเวอร์แอมป์ทุกรุ่นของ TAFN Audio System
แต่ทว่า D-TECH i SERIES
มีประสิทธิภาพในการกรองสัญญาณฮาร์โมนิกที่หนือกว่ารุ่นอื่นๆ
|
|
ระบบป้องกันที่ทันสมัยที่สุด
D-TECH i SERIES มีระบบการป้องกันที่ทันสมัยครบถ้วน
ปกป้องเพาเวอร์แอมป์จากปัญหา high-frequency oscillation ไฟฟ้าลัดวงจร
ความร้อนที่สูงเกินไป
เราพยายามออกแบบระบบป้องกันความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และ
D-TECH i SERIES ยังมีระบบ soft turn-on
ที่จะค่อยๆป้อนกระแสให้กับเพาเวอร์แอมป์ ไม่ดึงกระแสหนักตอนเปิดเครื่อง
ช่วยแก้ปัญหาไฟกระชาก
ทำให้ผู้ใช้สามารถเปิดเพาเวอร์แอมป์หลายๆตัวพร้อมกันด้วยสวิตซ์ควบคุมหลักเพียงตัวเดียว
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีการป้องกันของเรา
อ่านพิ่มเติม
D-TECH 2400i |
|
D-TECH
3600i |
LOAD |
NORMAL |
LZ |
2
ohm Dual (per ch.) |
1400 W rms. |
1400 W rms. |
4
ohm Dual (per ch.) |
1200 W rms. |
750
W rms. |
8
ohm Dual (per ch.) |
600
W rms. |
350
W rms. |
4
ohm Bridge-Mono |
2800 W rms. |
2800 W rms. |
8
ohm Bridge-Mono |
2400 W rms. |
1500 W rms. |
16
ohm Bridge-Mono |
1200 W rms. |
750
W rms. |
|
|
LOAD |
NORMAL |
LZ |
2
ohm Dual (per ch.) |
2200 W rms. |
2200 W rms. |
4
ohm Dual (per ch.) |
1800 W rms. |
1200 W rms. |
8
ohm Dual (per ch.) |
1000 W rms. |
600
W rms. |
4
ohm Bridge-Mono |
4400 W rms. |
4400 W rms. |
8
ohm Bridge-Mono |
3600 W rms. |
2400 W rms. |
16
ohm Bridge-Mono |
2000 W rms. |
1200 W rms. |
|
D-TECH 5000i |
|
D-TECH
8000i |
LOAD |
NORMAL |
LZ |
2
ohm Dual (per ch.) |
2600 W rms. |
2600 W rms. |
4
ohm Dual (per ch.) |
2400
W rms. |
1400
W rms. |
8
ohm Dual (per ch.) |
1200
W rms. |
720
W rms. |
4
ohm Bridge-Mono |
5200 W rms. |
5200 W rms. |
8
ohm Bridge-Mono |
4800 W rms. |
2800 W rms. |
16
ohm Bridge-Mono |
2400 W rms. |
1440 W rms. |
|
|
LOAD |
NORMAL |
LZ |
2
ohm Dual (per ch.) |
3200 W rms. |
3200 W rms. |
4
ohm Dual (per ch.) |
3200 W rms. |
1650 W rms. |
8
ohm Dual (per ch.) |
1600 W rms. |
850
W rms. |
4
ohm Bridge-Mono |
6400 W rms. |
6400 W rms. |
8
ohm Bridge-Mono |
6400 W rms. |
3300 W rms. |
16
ohm Bridge-Mono |
3200 W rms. |
1700 W rms. |
|
Guaranteed
Output Power with 0.35% THD
Download user MANUAL
|